มีใครเคยประสบปัญหาอาหารที่แช่ติดช่องแข็งแล้วต้องงัดออกมาจากช่องแช่แข็งของตู้เย็นบ้าง? บางทีงัดไปงัดมา หรือน้ำแข็งเกาะหนาหน่อย ก็ทำประตูช่องแช่แข็งหลุดออกมานักต่อนักแล้ว หรือกำลังทำน้ำแข็งอยู่ แต่สมาชิกในครอบครัวหลายคนผลัดกันเปิดไปมา น้ำแข็งก็ไม่แข็งเสียที เพราะอุณหภูมิความเย็นเหวี่ยงอยู่ตลอดเวลา ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป คุณจะไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับตู้เย็นอีกเลย เพียงเปลี่ยนมาใช้ตู้เย็น 2 ประตู แต่ก่อนอื่นเลยเรามาดูกันก่อนดีกว่าว่า มีอะไรที่ควรต้องรู้ก่อนเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อไหนดี?
ตู้เย็น 2 ประตูเหมาะกับใคร?
ตู้เย็น 2 ประตูคือตู้เย็นที่มีการแยกระหว่างช่องแช่เย็นและช่องแช่แข็งออกจากกัน เปิดปิดกันคนละประตู ทำให้ความเย็นและความชื้นในตู้ไม่ส่งผลกระทบต่อกัน เราจึงสามารถแช่อาหารแต่ละชนิดได้ตามความเหมาะสมอย่างสบายใจ ตู้เย็น 2 ประตูจึงเหมาะกับคนที่ต้องการแช่อาหารหลากหลายประเภทที่มีอุณหภูมิในการแช่แตกต่างกัน หรืออาจจะเป็นบ้านที่มีสมาชิกหลายคน การเปิดปิดตู้บ่อย ๆ อาจจะส่งผลต่อคุณภาพของอาหารบางชนิดที่แช่ไว้ในตู้ได้ รวมถึงมีข้อดีอื่น ๆ ที่เหนือกว่าตู้เย็นประตูเดียว ยกตัวอย่างเช่น การแยกชั้นระหว่างช่องแช่แข็งกับช่องแช่เย็น นอกจากจะมีผลเรื่องการทำความเย็นแล้ว ยังทำให้สามารถทำน้ำแข็งได้รวดเร็วกว่าตู้เย็นประตูเดียว หรือจะเป็นการที่มีนวัตกรรมละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ ทำให้ไม่ต้องละลายน้ำแข็ง เพราะจะไม่มีน้ำแข็งมาเกาะในช่องแข็งของตู้เย็น เป็นต้น
หลักในการเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตู
แม้จะมีข้อดีมากมาย แต่การเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตูมาไว้ที่บ้าน ก็ต้องลองดูก่อนว่าตู้เย็นที่เราหมายตาไว้เหมาะสมกับวิถีชีวิตของเราหรือไม่ ฟังก์ชันการใช้งานแบบไหนที่เราต้องการบ้าง จึงจะตอบตัวเองได้ว่าควรเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อไหนดี
- ตู้เย็น 2 ประตูมีขนาดกลางค่อนไปทางใหญ่ ดังนั้นบริเวณตำแหน่งที่จะติดตั้งตู้เย็นจะต้องมีพื้นที่กว้าง ยาว สูงอย่างเพียงพอ และไม่มีสิ่งของวางระเกะระกะรอบ ๆ พื้นที่ติดตั้งตู้เย็น จึงควรวัดขนาดพื้นที่ที่จะติดตั้งตู้เย็นเอาไว้ก่อน และนำไปเทียบกับขนาดจริงตอนซื้อด้วย
- ราคาของตู้เย็น 2 ประตูค่อนข้างสูงกว่าตู้เย็นประตูเดียว เริ่มต้นตั้งแต่หลักพันปลาย ๆ ไปจนถึงหลักหมื่น ควรดูพฤติกรรมการใช้ชีวิตก่อนว่ามีความจำเป็นแค่ไหน ซื้อมาแล้วจะใช้ได้อย่างคุ้มค่าหรือไม่
- ขนาดความจุของตู้เย็นมีตั้งแต่ 200-500 ลิตร พื้นที่ในการแช่สิ่งของต่าง ๆ เพียงพอสำหรับสมาชิก 4-5 คน หากคุณอยู่คนเดียว หรืออยู่กันแค่ไม่กี่คน ก็สามารถเลือกตามความจุที่เล็กที่สุดก่อนได้
- ดีไซน์ของตู้เย็น มีทั้งแบบเปิดประตูบน และล่าง รวมถึงแบบเปิดประตูได้ซ้ายและขวา ก็ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคน บางคนที่ชอบให้ใช้ได้ทั้งถนัดมือซ้ายและขวา ก็อาจจะเลือกแบบเปิดประตูได้ทั้งสองข้าง แต่ตู้เย็น 2 ประตูที่ดีไซน์แบบนี้ พื้นที่ด้านในมักจัดเรียงในแนวตั้ง อาจจะมีความกว้างที่แคบกว่า การที่จะแช่ภาชนะใหญ่ ๆ ก็อาจจะทำได้ลำบาก
- นวัตกรรมเฉพาะรุ่นตอบโจทย์การใช้งานหรือไม่ ตู้เย็น 2 ประตูบางยี่ห้อ หรือบางรุ่นมีฟังก์ชันการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ รวมถึงมีนวัตกรรมที่ช่วยประหยัดพลังงาน ราคาตอนซื้อมาอาจจะแพงกว่ารุ่นอื่นหน่อย แต่เมื่อใช้ระยะยาวก็จะกินไฟน้อยกว่า ลดภาระค่าไฟฟ้าได้มากกว่า โดยเฉพาะการเลือกตู้เย็นที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
- การรับประกัน และบริการหลังการขายเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้ตอนซื้อ เพราะตู้เย็นเป็นอุปกรณ์ชิ้นใหญ่ ขนส่งลำบาก หากมีอะไรเสียขึ้นมา การต้องขนส่งไปมาเพื่อแก้ไข ย่อมเป็นเรื่องไม่สะดวก การที่ผู้จำหน่ายมีการรับประกันสินค้า รวมถึงรับส่งถึงที่หากมีปัญหาก็ย่อมทำให้ลูกค้าสะดวกสบายและมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น
ตู้เย็น 2 ประตูจึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้แก่เรามากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยรักษาสภาพอาหารให้มีความสดมีคุณภาพราวกับเพิ่งออกมาจากตู้แช่ของร้านค้า ถ้าหากคุณยังลังเลว่าจะเลือกตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อไหนดี ขอแนะนำให้คุณลองเข้ามาดูในเว็บไซต์ของ Samsung จะพบตู้เย็น 2 ประตูหลากหลายรุ่น นอกจากจะตอบโจทย์ในการใช้งานแล้ว ยังมีนวัตกรรมที่ช่วยในการประหยัดพลังงาน แถมรับประกันนานถึง 10 ปี ทำให้ทุกครั้งที่คุณเปิดตู้เย็นจะมีแต่รอยยิ้ม และทุกมื้ออาหารของคุณอบอวลไปด้วยความประทับใจ